Sunday, 2 April 2023

นักวิจัยค้นพบว่ามลพิษทางอากาศนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งปอดได้อย่างไร

นักวิจัยศึกษาค้นพบว่ามลภาวะที่เกิดขึ้นทางอากาศนำไปสู่การเกิด โรคมะเร็งปอด ได้อย่างไร ซึ่งถือเป็นการศึกษาค้นพบที่เปลี่ยนแปลงความรู้ความเข้าใจถึงการเกิดขึ้นของเนื้องอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่ไม่เคยแม้แต่จะสูบบุหรี่เลย

เมื่อเดือน เดือนกันยายน ทีมวิจัยสถาบันฟรานซิส คริก ในกรุงลอนดอน ระบุว่า มลภาวะที่เกิดขึ้นทางอากาศก่อเกิดมะเร็งปอดได้จริง แม้ในคนที่ไม่สูบบุหรี่ ด้วยการกระตุ้นหรือปลุกเซลล์เก่าๆที่เสียหายขึ้นมา มากยิ่งกว่าการสร้างความทรุดโทรมให้เซลล์ ตามความเชื่อเดิม

หนึ่งในผู้ชำนาญระดับนานาชาติเป็นศ.จ. ชาร์ลส์ สแวนตัน ระบุว่า การศึกษาค้นพบดังที่กล่าวถึงแล้วทำให้วงการแพทย์ “ไปสู่ยุคใหม่” แล้วก็อาจนำไปสู่การพัฒนาตัวยา เพื่อยับยั้งโรคมะเร็งไม่ให้ก่อตัวขึ้น

ความเสี่ยงเกิดมะเร็งปอด

โรคมะเร็งปอด โดยทั่วไปแล้ว การก่อตัวของโรคมะเร็งจะกำเนิดเป็นลำดับขั้นตอนเป็นเริ่มจากเซลล์ที่แข็งแรง

แล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยๆมีการกลายพันธุ์ในระดับสารพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ จนกระทั่งจุดที่กลายเป็นเซลล์ไม่ดีเหมือนปกติ สู่เซลล์ของโรคมะเร็ง แล้วก็เติบโตอย่างควบคุมมิได้

แต่ว่าแนวคิดการเกิดโรคมะเร็งแบบนี้ มีปัญหา ด้วยเหตุว่าการกลายพันธุ์เป็นเซลล์ของโรคมะเร็งได้เกิดขึ้นในเยื่อที่แข็งแรง กลับกลายเป็นว่าตัวการของโรคมะเร็ง รวมถึงมลภาวะที่เกิดขึ้นทางอากาศ มิได้สร้างความเสียหายต่อดีเอ็นเอ แต่ว่าเป็นการกระตุ้นเซลล์ที่เสียหายให้กลับมาทำงานอีกครั้งมากกว่า

ศ.จ. สแวนตัน ระบุว่า “การเสี่ยงกำเนิดมะเร็งปอดจากมลภาวะที่เกิดขึ้นทางอากาศ มีน้อยกว่าการสูบบุหรี่ แต่ว่าด้วยเหตุว่ามนุษย์ควบคุมการหายใจของตนเองไม่ได้ แล้วก็ทั่วโลก ผู้คนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัยจากมลภาวะที่เกิดขึ้นทางอากาศมากขึ้นกว่า การสูดสารเคมีที่เป็นพิษจากควันที่เกิดจากบุหรี่”

แล้วเกิดอะไรขึ้น?

นักวิจัยซึ่งทำงานอยู่ที่มหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน หรือยูซีแอล ได้ศึกษาค้นพบหลักฐานถึงแนวคิดใหม่ถึงการเกิดโรคมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบุคคลที่ไม่สูบบุหรี่ โดยระบุว่า จริงๆแล้ว ความทรุดโทรมได้ฝังตัวอยู่ในดีเอ็นเอของเซลล์ ในระหว่างที่เราเติบโตแล้วก็แก่มากขึ้น

มลพิษทางอากาศ

แต่ว่าจะต้องมีสิ่งที่มากระตุ้นความเสียหายในดีเอ็นเอของเซลล์ก่อน มันถึงจะกลายเป็นเซลล์ของโรคมะเร็งได้

การศึกษาค้นพบนี้ มาจากการวิเคราะห์ว่าทำไมบุคคลที่ไม่สูบบุหรี่ถึงเป็นโรคมะเร็งปอด แน่ๆว่า สาเหตุส่วนใหญ่ของคนไข้มะเร็งปอดมาจากการสูบยาสูบ แต่ว่าก็พบว่า 1 ใน 10 ของคนไข้มะเร็งปอดในสหราชอาณาจักร เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากมลภาวะที่เกิดขึ้นทางอากาศ

ทีมวิจัยของสถาบันฟรานซิส คริก ให้ความสำคัญกับอนุภาคฝุ่นผงหลังเที่ยงวัน 2.5 (PM 2.5) ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเส้นผมของคนเรา

แล้วก็เมื่อปฏิบัติงานทดลองในสัตว์แล้วก็มนุษย์โดยละเอียด พวกเขาพบว่า สถานที่ที่มีมลภาวะที่เกิดขึ้นทางอากาศสูง จะเจอคนไข้โรคมะเร็งปอดที่มิได้เป็นผลมาจากการสูบยาสูบ ในรูปทรงที่มากขึ้น

โดยเมื่อสูดฝุ่นละอองพีเอ็ม 2.5 เข้าไปในร่างกาย จะทำการกระตุ้นให้หลั่ง “อินเทอร์ลิวคิน 1 เบตา” ออกมา เป็นการตอบสนองทางเคมี จนถึงนำไปสู่อาการอักเสบ จนถึงร่างกายจำเป็นต้องกระตุ้นเซลล์ในปอดให้เข้ามาซ่อม

แต่ว่าเซลล์ปอดนั้น ทุกๆ600,000 เซลล์ ในบุคคลอายุราว 50 ปี จะมีขั้นต่ำหนึ่งเซลล์ ที่สุ่มเสี่ยงต่อการกลายพันธุ์เป็นเซลล์ของโรคมะเร็งได้ ซึ่งปกติแล้ว ร่างกายจะกำเนิดเซลล์ที่สุ่มเสี่ยงนี้ เมื่อมนุษย์อายุมากขึ้น แต่ว่าเซลล์จะยังดูแข็งแรงอยู่ ตราบจนกระทั่งจะถูกกระตุ้นให้กลายพันธุ์

การศึกษาค้นพบที่สำคัญยิ่งกว่าเป็นนักวิจัยสามารถยับยั้งการก่อมะเร็งในหนูที่ปล่อยให้เผชิญอยู่ในสถานการณ์มลภาวะที่เกิดขึ้นทางอากาศ ด้วยการใช้ตัวยาเพื่อยับยั้งการตอบสนองทางเคมีดังที่กล่าวถึงแล้ว ผลก็เลยถือเป็นการศึกษาค้นพบครั้งใหญ่ 2 ครั้งซ้อนคือเพิ่มความรู้ความเข้าใจถึงผลกระทบของมลภาวะที่เกิดขึ้นทางอากาศ แล้วก็วิธีการกำเนิดโรคมะเร็งในร่างกาย

ดร. เอมิเลีย ลิม หนึ่งในผู้ศึกษาวิจัย ซึ่งประจำอยู่ที่คริกแล้วก็ยูซีแอล ระบุว่า โดยทั่วไปแล้ว บุคคลที่ไม่เคยสูบบุหรี่เลย กลับเป็นโรคมะเร็งปอด ชอบไม่เคยรู้ถึงสาเหตุ

“ฉะนั้น การให้เบาะแสพวกเขาถึงสาเหตุการเกิดโรคมะเร็ง ก็เลยเป็นเรื่องสำคัญมาก” แล้วก็ “ยิ่งสำคัญมากขึ้น เมื่อประชากร 99% ในโลก ล้วนอาศัยอยู่ในสถานที่ที่ระดับมลภาวะที่เกิดขึ้นทางอากาศ สูงกำเนิดกว่าข้อเสนอขององค์การอนามัยโลก”

คิดเรื่องโรคมะเร็งเสียใหม่

ผลของการทดลองนี้ ยังทำให้เห็นว่า การกลายพันธุ์ในเซลล์เพียงอย่างเดียว ไม่ใช่เหตุนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งเสมอไป แต่ว่าอาจมีเหตุอื่นเสริมด้วย

ศ.จ. สแวนตัน ระบุว่า การศึกษาค้นพบที่น่าตื่นเต้นที่สุดในห้องทดลองเป็น“แนวคิดการเกิดเนื้องอกที่จำเป็นต้องหันกลับมาทบทวนเสียใหม่” แล้วก็นี่อาจนำไปสู่ “ยุคใหม่” ของการป้องกันโรคมะเร็งในระดับโมเลกุล เป็นต้นว่า แนวคิดที่ว่าหากคุณอยู่ในสถานที่ที่มีมลภาวะที่เกิดขึ้นทางอากาศสูง คุณอาจทานยาต้านทานโรคมะเร็งได้ เพื่อลดการเสี่ยง

ศ.จ. สแวนตัน บอกกับสถานีวิทยุกระจายเสียงบีบีซีว่า เราอาจจำเป็นต้องพิจารณาถึงวิธีการที่ว่า การสูบยาสูบก่อเกิดโรคมะเร็ง ด้วย แล้วก็ที่จริง แนวคิดที่ว่า ดีเอ็นเอกลายพันธุ์นั้นน้อยเกินไปที่จะก่อเกิดโรคมะเร็ง ด้วยเหตุว่าจะต้องมีเหตุอื่นกระตุ้นให้เซลล์ของโรคมะเร็งเติบโต มีการนำเสนอมาตั้งแต่ปี 1947 แล้ว โดย ไอแซค เบเรนบลูม

อย่างไรก็ดี มิเชลล์ มิตเชลล์ ผู้อำนวยการหน่วยงานวิจัยโรคมะเร็งแห่งสหราชอาณาจักร ย้ำว่า ตอนนี้ “ยาสูบยังเป็นสาเหตุหลักของการเกิดมะเร็งปอด” แต่ว่า “วิทยาศาสตร์ อาศัยการทำงานอย่างหนักนับเป็นเวลาหลายปี แล้วก็กำลังเปลี่ยนแนวคิดว่าโรคมะเร็งเกิดขึ้นได้อย่างไร แล้วก็เดี๋ยวนี้ เรามีความเข้าใจถึงสิ่งกระตุ้นให้กำเนิดโรคมะเร็งได้มากขึ้นแล้ว”

แล้วมะเร็งปอดพบเจอได้มากขนาดไหน สมาคมอเมริกันแคนเซอร์ ระบุว่า มะเร็งปอดทั้งแบบจำพวกเซลล์เล็ก แล้วก็จำพวกไม่ใช่เซลล์เล็ก เป็นโรคมะเร็งที่มักพบที่สุดอันดับ 2 ในสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ในเพศชายนั้น โรคมะเร็งที่มักพบที่สุดคือโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ส่วนหญิงนั้น จะเป็นโรคมะเร็งเต้านม

ทางสมาคมประเมินว่า ปี 2022 เจอคนไข้มะเร็งปอดมากขึ้น 236,740 คน แล้วก็เสียชีวิต 130,180 คน โดยคนไข้มะเร็งปอดส่วนใหญ่ เป็นผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป แต่ว่าก็ได้โอกาส แม้ว่าจะน้อยมากๆที่ประชาชนอายุ ชต่ำกว่า 45 ปี จะเป็นโรคมะเร็งปอด โดยอายุเฉลี่ยของคนไข้มะเร็งปอดอยู่ที่ 70 ปี

มะเร็งปอดยังคิดเป็นสาเหตุการตายจากโรคมะเร็ง แทบ 25% ของผู้ตายจากโรคมะเร็งทั้งหมด

สำหรับเมืองไทยนั้น แพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ พูดว่า มะเร็งปอดเป็นโรคมะเร็งที่มักพบที่สุดทั่วโลก สำหรับเมืองไทยโรคมะเร็งปอดถือเป็น 1 ใน 5 ของโรคมะเร็งที่พบบ่อย ซึ่งมักพบเป็นอันดับ 2 ในผู้ชาย แล้วก็อันดับ 5 ในผู้หญิง แต่ละปีจะมีคนไข้รายใหม่ราวๆ 17,222 ราย เป็นเพศชาย 10,766 ราย แล้วก็ผู้หญิง 6,456 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ตายราวๆ 14,586 ราย หรือคิดเป็น 40 รายต่อวัน

สิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่สำคัญของโรคมะเร็งปอดเป็นการสูบยาสูบหรือการได้รับควันที่เกิดจากบุหรี่มือสองแล้วก็การสัมผัสสารก่อโรคมะเร็ง เป็นต้นว่า ก๊าซเรดอน แร่ใยหิน รังสี ควันธูป ควันจากท่อไอเสีย แล้วก็มลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝุ่นผงพีเอ็ม 2.5

การสูดสารเคมี