Saturday, 1 April 2023

ฟันฮิปโป กำลังกลายเป็นชิ้นส่วนจากสัตว์ป่าที่นักลักลอบสนใจค้าแทนงาช้าง

ฟันฮิปโป นักเคลื่อนไหวด้านสัตว์ป่าเตือนว่า ข้อจำกัดที่เคร่งครัดเพิ่มมากขึ้นต่อการลักลอบค้างาช้างได้นำมาซึ่งการค้าฟันฮิปโปโปเตมัสมากเพิ่มขึ้น โดยอาจจะส่งผลเสียอย่างรุนแรงต่อฮิปโปโปเตมัสสายพันธุ์ที่ได้รับการขึ้นบัญชีว่า “มีแนวโน้มใกล้สิ้นซาก” (vulnerable to extinction)

ในขณะที่สหราชอาณาจักรประกาศการห้ามการค้างาช้างเกือบทั้งหมดเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา องค์กรการกุศลด้านความปลอดภัยสัตว์ป่าได้เล่าเรียนความเคลื่อนไหวในตลาดออนไลน์ที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย

ฟันฮิปโป ฮิปโปโปเตมัส

“เราเจอการค้าฟันฮิปโปโปเตมัสเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในสหราชอาณาจักร”

ในช่วงหนึ่งเดือนหลังจากการห้ามการค้างาช้างเกือบทั้งหมดมีผลบังคับใช้ แฟรงกี โอซูก ผู้นำการเขียนรายงานที่เผยแพร่โดยบอร์น ฟรี (Born Free) เมื่อเดือน ก.ย. กล่าว

นี่คือ “หลักฐานที่น่าวิตกกังวลอย่างยิ่งว่า มีความต้องการฟันฮิปโปมากขึ้น ซึ่งปริมาณฮิปโปโปเตมัสตามธรรมชาติก็พบเจอกับการคุกคามอยู่” รายงานเจาะจง

บรรดานักค้นคว้ากล่าวว่า ลักษณะนี้คล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นในปี 1989 ซึ่งทั้งโลกเห็นดีเห็นชอบร่วมกันสำหรับเพื่อการห้ามการค้างาช้างเป็นครั้งแรก และก็มีความเข้มงวดขึ้น เนื่องจากว่ารัฐบาลต่างๆได้เอามาตรการใหม่ๆมาใช้สำหรับเพื่อการห้าม

เหมือนกันกับงา ฟันและเขี้ยวของฮิปโปโปเตมัสมักถูกใช้ในลัษณะของการสลักเพื่อนำไปประดับตกแต่ง แต่ของพวกนั้นราคาถูกกว่า และก็หามาครองได้ง่ายยิ่งกว่า

ส่วนต่างๆของฮิปโปยังสามารถนำไปขายภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่ารวมทั้งพืชป่าที่ใกล้จะสิ้นพันธุ์ (Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora –CITES) หรือ ไซเตส ได้ด้วย แม้กระนั้นการขายในต่างแดนควรมีใบอนุญาตการส่งออก

นักเคลื่อนไหวด้านสัตว์ป่าเตือนว่า ข้อกำหนดที่ครัดเคร่งมากเพิ่มขึ้นต่อการลักลอบค้างาช้างได้ทำให้เกิดการค้าฟันฮิปโปโปเตมัสเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยบางทีอาจจะส่งผลเสียอย่างร้ายแรงต่อฮิปโปโปเตมัสสายพันธุ์ที่ได้รับการลงบัญชีว่า “มีแนวโน้มใกล้สิ้นซาก” (vulnerable to extinction)

ในระหว่างที่สหราชอาณาจักรประกาศการห้ามการค้างาเกือบทั้งหมดเมื่อเดือน มิ.ย. ก่อนหน้านี้ องค์กรการกุศลด้านความสะดวกสัตว์ป่าได้เรียนรู้ความเคลื่อนไหวในตลาดออนไลน์ที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย

“เราพบการค้าฟันฮิปโปโปเตมัสเยอะขึ้นเรื่อยๆในสหราชอาณาจักร ในช่วงหนึ่งเดือนหลังจากการห้ามการค้างาช้างเกือบทั้งหมดมีผลบังคับใช้” แฟรงกี โอซูก หัวหน้าการเขียนรายงานที่เผยแพร่โดยบอร์น ฟรี (Born Free) เมื่อเดือน เดือนกันยายน กล่าว

นี่คือ “หลักฐานที่น่ากังวลอย่างยิ่งว่า มีความต้องการฟันฮิปโปโปเตมัสเพิ่มขึ้น ซึ่งจำนวนฮิปโปโปเตมัสตามธรรมชาติก็เผชิญกับการคุกคามอยู่” รายงานกำหนด

ฟันฮิปโป งาช้าง

บรรดานักค้นคว้าบอกว่า ลักษณะนี้คล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นในปี 1989

ซึ่งทั่วโลกเห็นดีเห็นชอบร่วมกันในการห้ามการค้างาช้างเป็นครั้งแรก และมีความเข้มงวดขึ้น เพราะเหตุว่ารัฐบาลต่างๆได้นำมาตรการใหม่ๆมาใช้สำหรับการห้าม

เหมือนกับงาช้าง ฟันแล้วก็เขี้ยวของฮิปโปโปเตมัสมักถูกใช้เพื่อการแกะเพื่อนำไปแต่งแต้มตกแต่ง แต่ของพวกนั้นราคาถูกกว่า แล้วก็หามาถือครองได้ง่ายกว่า

ส่วนต่างๆของฮิปโปยังสามารถนำไปขายภายใต้อนุสัญญากล่าวถึงการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและก็พืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ (Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora –CITES) หรือ ไซเตส ได้ด้วย แต่ว่าการขายในต่างประเทศจะต้องมีใบอนุมัติการส่งออก

ชาติในแอฟริกากลางและก็ตะวันตก 10 ชาตินี้จึงได้เสนอทางที่เรียกว่า “ความคิดเห็นประกอบ” ซึ่งจะนำมาซึ่งการทำให้มีการระบุโควตาเป็นศูนย์ในการค้าตัวอย่างสัตว์ป่าเพื่อเป้าประสงค์ทางการค้า แต่คำแนะนำนี้ไม่ได้รับการสนับสนุนจากสหภาพยุโรป หรือจากชาติต่างๆในแอฟริกาใต้รวมทั้งตะวันออก ซึ่งระบุว่า จำนวนประชากรฮิปโปยังคงอยู่ในระดับที่ดี

บางประเทศในแอฟริกาใต้รวมทั้งทิศตะวันออก เป็นต้นว่า แทนซาเนีย, ยูกันดา, แซมเบีย รวมทั้งซิมบับเว ยังเป็นที่มาของฮิปโปโปเตมัสราว 3 ใน 4 จากจำนวน 13,909 ตัว ที่ถูกนำส่วนประกอบรวมทั้งสินค้าต่างๆจากฮิปโปโปเตมัสเหล่านี้ไปขายระหว่างปี 2009-2018

โจอันนา สวาเบ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายโฆษณาของสโมสรมนุษยธรรมนานาชาติ (Humane Society International) ชี้ว่า เกือบจะไม่มีการดำเนินการใดๆตั้งแต่ปี 2016 เพื่อรักษาปริมาณฮิปโป

“แทบไม่มีการศึกษาเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับจำนวนประชากรที่จริงจริงของฮิปโปโปเตมัสในประเทศต่างๆเหล่านี้เลย” เธอกล่าว

“ในขณะที่ในเวลาเดียวกัน ประเทศเหล่านี้รู้ดีว่า กำลังเกิดอะไรสังกัดฮิปโปโปเตมัสภายในดินแดนของตัวเอง ด้วยเหตุผลดังกล่าว พวกเขาไม่ควรละเลย”

ฮิปโปมีอัตราการเกิดต่ำ โดยคลอดเพียง 1 ตัวในแต่ละปี ด้วยเหตุนั้นการมีจำนวนประชากรฮิปโปโปเตมัสที่ลดลงบางทีอาจทำให้เกิดผลกระทบในระยะยาวได้

ฮิปโป

ฟันฮิปโป ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับฮิปโป

ฮิปโปทุกตัวอาศัยอยู่ในแอฟริกา โดยมี 2 จำพวกคือ ฮิปโปโปเตมัสธรรมดา (common hippo) ซึ่งคาดว่า มีประชากรราว 115,000-130,000 ในปี 2016 และฮิปโปโปเตมัสแคระ (pygmy hippo) ซึ่งมีประชากรราว 2,000-3,000 ตัว

ฮิปโปธรรมดาจัดอยู่ในจำพวก “มีแนวโน้มใกล้สิ้นพันธุ์” ในบัญชีแดงของสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์และรักษาธรรมชาติในปี 2016

มีการค้าองค์ประกอบและก็สินค้าต่างๆของฮิปโป 13,909 ตัว อย่างถูกกฎหมาย ระหว่างปี 2009-2018 โดย 3 ใน 4 ของฮิปโปเหล่านี้มีต้นกำเนิดอยู่ในแทนซาเนีย, ยูกันดา, แซมเบีย รวมทั้งซิมบับเว

มีการค้าฟันฮิปโปอย่างถูกกฎหมายน้ำหนักรวม 770,000 กิโลกรัม ระหว่างปี 1975-2017 แม้กระนั้นไม่ทราบปริมาณการค้าอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

ผู้ที่มีความชำนาญด้านสัตว์ป่ากล่าวเพราะ ควรต้องจับตาดูการค้าฟันฮิปโปทั้งที่ถูกตามกฎหมายและก็ไม่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างสนิทสนม

ฮิปโปโปเตมัสธรรมดาถูกลงบัญชีในภาคผนวกที่ 2 ของไซเตส ซึ่งมีความหมายว่า บางครั้งอาจจะสิ้นซากได้ ถ้าเกิดไม่มีการควบคุมการค้าอย่างครัดเคร่ง

10 ประเทศดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ซึ่งกำลังพยายามให้มีการห้ามการค้าฟันฮิปโปโปเตมัสทั้งโลก กล่าวว่า มีหลักฐานที่แน่ชัดว่า “มีการปนเปกันระหว่างฟันฮิปโปไม่ถูกกฎหมายและก็ถูกต้องตามกฎหมาย” ทำให้ฟันฮิปโปโปเตมัสที่ถูกลักลอบล่า “ถูกนำไปฟอกเพื่อนำไปขายในตลาดถูกตามกฎหมาย”

หากไม่มีการควบคุมอย่างเคร่งครัดมากยิ่งขึ้น นักเคลื่อนไหวเตือนว่า ฮิปโปโปเตมัสอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีชะตากรรมเหมือนกันกับช้าง ซึ่งกลายเป็นสัตว์ที่ใกล้สิ้นพันธุ์ (endangered) หรือใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง (critically endangered) ในกรณีของช้างป่าแอฟริกา เนื่องจากว่าผู้ลักลอบล่าสัตว์ได้ฆ่าช้างป่าเหล่านี้จำนวนมากเพื่อเอางาของพวกมัน

ขอขอบคุณสำนักข่าว BBC